อังคาร, 19 มีนาคม 2024
Home นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด


ภาพนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Sages Academy ห้ามมิให้ผู้ใด นำไปทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือ เผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Sages Academy ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย






SAGES ACADEMY
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด


นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับการที่ SAGES ACADEMY (ซึ่งจะเรียกต่อไปว่า “เรา” หรือ “ของเรา”) ใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด สำหรับภายในอาคารและสถานที่ของเรา รวมถึงพื้นที่โดยรอบ เพื่อการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของอาคารและสถานที่ ทรัพย์สิน นักศึกษา ลูกค้า ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลอื่นใดที่เข้าถึงพื้นที่ที่มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซึ่งจะเรียกรวมว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน”) นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (“ประมวลผล”) ซึ่งข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562


เราขอสงวนสิทธิในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ในเวลาใดๆ ตามที่เห็นสมควร โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเราแต่เพียงผู้เดียว ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอันสำคัญ เราจะใช้ความพยายามตามความเหมาะสมเพื่อที่จะแจ้งให้ท่านทราบ


1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เราเก็บรวบรวมภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว รูปภาพ เสียง และภาพถ่ายของท่าน ซึ่งอาจรวมถึงคนรู้จัก และ/หรือสิ่งของของท่าน (เช่น ทรัพย์สิน ยานพาหนะ) ซึ่งสังเกตได้จากภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เมื่อท่านเข้ามาในบริเวณที่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของเรา


2. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การบันทึก การถือครอง การแก้ไข การปรับเปลี่ยน การเปลี่ยนแปลง การทำลาย การกู้คืน การรวม การทำสำเนา การส่ง การเก็บรักษา การแยก การปรับเปลี่ยน หรือการเพิ่ม อันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ของท่าน เราจะไม่ดำเนินการ (เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยปราศจากความยินยอมจากท่าน เว้นเสียแต่เราสามารถอ้างอิงฐานกฎหมายอื่นๆ มารองรับ ทั้งนี้ วัตถุประสงค์และฐานกฎหมายดังกล่าวมีดังต่อไปนี้

ประโยชน์ต่อชีวิต: กรณีเรื่องจำเป็นในการป้องกัน ปกป้อง และ/หรือยับยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล

ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีเป็นประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่ระบุดังต่อไปนี้ (1) ปกป้องคุ้มครองชีวิต ร่างกาย สุขภาพ ความปลอดภัยส่วนบุคคล และทรัพย์สิน (2) ปกป้องและป้องกันอาคาร สถานที่ และทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การถูกรบกวน การถูกทำลาย หรือ ความขัดข้องไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (3) ช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้น (4) ช่วยเหลือในการสอบสวนหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนและการแจ้งเบาะแส (5) ช่วยในการฟ้องหรือต่อสู้คดี ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินคดีแรงงาน และ (6) ในกรณีที่เราอาศัยหลักประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายนั้น เราจะคำนึงถึงความสมดุลระหว่างประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลที่สาม (แล้วแต่กรณี) กับสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

การปฏิบัติตามกฎหมาย: การปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ และหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย


เราจะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่จุดสำคัญภายในสถานที่ อาคารและพื้นที่ต่างๆ ของเรา ภายใต้การสอดส่องดูแลตามสมควร ท่านสามารถทราบได้ว่าบริเวณดังกล่าวมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ด้วยการสังเกตป้ายที่ระบุว่ากล้องโทรทัศน์วงจรปิดกำลังทำงานอยู่ ทั้งนี้ กล้องโทรทัศน์วงจรปิดจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เว้นแต่ในกรณีที่ระบบขัดข้องหรือมีการซ่อมบำรุง


3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น เช่น พนักงานที่เราได้มอบหมายให้ดำเนินการเกี่ยวกับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด โดยจะทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พนักงานสอบสวน อัยการ ศาล เป็นต้น


4. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดไว้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว เราจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้


5. สิทธิทางกฎหมายของท่านในฐานะของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับ ท่านมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้

(1) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล: ท่านมีสิทธิเข้าถึงหรือขอรับสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือเปิดเผยที่มาการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เรามีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการจัดเรียงแล้ว และส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ในกรณี (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับเรา (ข) กรณีที่เราประมวลผลข้อมูลนั้นโดยอาศัยฐานความยินยอมจากท่าน

(4) สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา (หรือของบุคคลอื่น) ได้

(5) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ หากท่านเห็นว่า (1) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ (2) ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายฉบับนี้แล้ว

(6) สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่านหรือกรณีอื่นใดที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้เราระงับการใช้แทน

(7) สิทธิในการถอนความยินยอม: ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลแก่เราไว้ ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้

(8) สิทธิในการร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ หากท่านเห็นว่าเราฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ


การร้องขอใดๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรหรือผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเราได้จัดให้มีขึ้น เราจะพยายามดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ เราจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด


6. รายละเอียดในการติดต่อเรา
หากท่านมีคำถามหรือข้อคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อเรา ได้ที่เบอร์โทรศัพท์: 081-639-8518 หรือ e-mail: อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีผลใช้บังคับวันเดียวกันกับวันที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ หากพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เลื่อนการมีผลบังคับใช้ออกไป ให้ถือว่า นโยบายฉบับนี้ เลื่อนการบังคับใช้ออกไป


 

บทความยอดนิยม Popular Articles

บทความล่าสุด Latest Articles

เรื่องน่าสนใจ Sages Recommend



กรณีที่ท่านมีปัญหาในการเข้าชมเว็บนี้ อันเนื่องมาจากเวอร์ชั่นของ Internet Explorer (IE) ของท่านเป็นเวอร์ชั่น 6 หรือต่ำกว่า ดังนั้นเพื่อให้เข้าชมเว็บให้ได้อย่างมีอรรถรส กรุณาอัพเดทเวอร์ชั่นของ Internet Explorer (IE) เป็นเวอร์ชั่น 7 ก่อน สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

หรือทำการติดตั้ง Firefox สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

 

Your are currently browsing this site with Internet Explorer 6 (IE6).

Your current web browser must be updated to version 7 of Internet Explorer (IE7) to take advantage of all of template's capabilities. Download IE7