ชัยภูมิบอกลักษณะ และ คุณสมบัติของวิชานั้นๆคำว่า "ชัยภูมิ" ทุกคนที่สนใจศึกษาวิชาฮวงจุ้ย มักได้ยินได้ฟังมาบ่อย จนคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องพื้นฐาน สามารถหาอ่านได้ตามเว็บไซต์ และ แผงหนังสือทั่วไป แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่า ชัยภูมิเป็นเสมือนกุญแจที่ไขรหัสลับ สามารถบอกแจ้ง และ เปิดเผยความเป็นไปของบุคคลที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นๆ ได้อย่างอัศจรรย์ แต่เรื่องราวเกี่ยวกับวิชาชัยภูมินั้น เป็นสิ่งสลับซับซ้อน และ ยากยิ่งที่จะทำความเข้าใจ เพราะชัยภูมิย่อมเป็นเครื่องกำหนดลักษณะ และ ขอบเขตของวิชานั้นๆ เช่น ระบบชัยภูมิในวิชาฮวงจุ้ย 24 ทิศทาง จะใช้รูปแบบของการกำหนดลักษณะของ 4 สัตว์เทพ ทั้งระดับจุลภาค และ มหภาค คือ 4 สัตว์เทพชั้นใน และ 4 สัตว์เทพชั้นนอก ได้แก่
ระบบชัยภูมิในวิชาฮวงจุ้ย 64 ทิศทาง จะใช้รูปแบบของการกำหนดลักษณะของชัยภูมิ 8 ทิศทาง ตามสัญลักษณ์ข่วย แต่ไม่ได้หมายความว่า จะนำเอาลักษณะข่วยมากำหนดรูปแบบของชัยภูมิ วงการฮวงจุ้ยในปัจจุบันแสนจะสกปรก ใส่ร้ายป้ายสีกันไปกันมา กล่าวหาโจมตีทำลายล้างกันไม่หยุด เพราะ ผลประโยชน์ตัวเดียวเท่านั้นเอง ผู้มิได้มีความรู้ มิได้ศึกษามาจริง กลับเหยียบย่ำ ผู้รู้จริงซะงั้น ผู้รู้ก็พยายามหลีกเร้นซ่อนแฝง ไม่ใส่ใจ ผู้รู้ไม่จริงบิดเบือนหลักวิชาจนเกิดกลายเป็นความเชื่อที่ผิดๆ สืบเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน แตกต่างจากสมัยโบราณ ซินแสผู้เฒ่า ผู้มีความรู้ความสามารถมากมายหลายท่าน ที่เข้าถึงวิชาอย่างแท้จริง และ ถ่ายทอดกันลงมาจากรุ่นสู่รุ่น สาเหตุที่หลักวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูง ฤกษ์ยามชั้นสูง และ ดวงจีนชั้นสูง ไม่หลุดออกมาแก่บุคคลภายนอกนั้น ก็เนื่องจาก หลักวิชาชั้นสูงเป็นของสำคัญ สามารถสร้างคุณและโทษแก่ผู้นำไปใช้งานได้ อีกทั้งอาจารย์ผู้ถ่ายทอดเกรงว่า ผู้อื่นอันมิใช่ บุตร หลาน ญาติของตน จะคิดคดทุรยศ ทำลายล้างผู้เป็นอาจารย์ จึงมิได้มีการเผยแพร่หลักวิชาแก่คนนอก นอกเสียจากว่า จะเห็นนิสัยใจคอที่แท้จริงของบุคคลผู้นั้น จึงสั่งสอน และ เปิดเผยเคล็ดวิชาชั้นสูงๆ ขึ้นไป ในปัจจุบัน คนบางกลุ่ม เชื่อว่า "เงิน" สามารถซื้อหาวิชามาได้สมใจอยาก แต่การคิดเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ผิดพลาดยิ่งนัก และ คนส่วนใหญ่ที่สนใจศึกษาวิชาฮวงจุ้ย มักบ้าเรื่องกระแส หลี่ขี่ แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่า "ธรรมดาที่ธรรมดา คือ หลักวิชาชัยภูมิ" วิชาชั้นสูงไม่ได้วิเศษอะไร วิชาพื้นๆ ที่คนมองข้ามต่างหากที่วิเศษ และ ที่พื้นๆ นั้นแหละ คือ ของชั้นสูง ซึ่งหมายถึง ชัยภูมิ และ ชัยภูมิ เรียน 10 ปี ไม่จบ จะเรียนให้แตกฉาน อาศัยการอ่านจากตำราไม่ได้ ต้องเห็นของจริง จึงจะแตกฉานจริง วิชาชัยภูมินี่ มันของวิเศษ ทำไม!!! คนมันถึงบ้าหลี่ขี่ บ้ากระแสปราณ แล้วเหยียบย่ำวิชาชัยภูมินะ คำตอบคือ เพราะเขาคิดว่า แค่ได้บ้านที่ตรงกับทิศนั่งที่เขาต้องการแล้ว อะไรมันก็จะดีไปหมด เหมือนอย่างพวกที่เรียนวิชาเฮี่ยงคง ดาว 9 ยุค ไง เจอดาวน้ำ ดาวเขา ดีใจตัวสั่น แค่หลักการนำเอาวิชาชัยภูมิมาใช้ประกอบกับกระแส หลี่ขี่ ผู้ตั้งตนเป็นอาจารย์ก็ดี ผู้หลงทะนงตนว่า ตนเป็นผู้ศึกษามามากกว่าดี ยังสับสนเลย จึงเป็นสิ่งน่าสลดใจแก่ผู้แอบอ้างทั้งหลายว่า "รู้ไม่จริง ยังเที่ยวอวดรู้ ทำให้ผู้คนสับสน หลงผิดไปเรื่อย" พึงทราบว่า ระบบหลี่ขี่ กระแส ในวิชาเฮี่ยงคงปวยแช (ดาว 9 ยุค ของสำนักเฮี่ยงคง) หรือ วิชา 64 ข่วย ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ ชัยภูมิ 4 สัตว์เทพได้ เพราะ มันเป็นคนละเรื่อง คนละระบบ คนละส่วนกัน ใครนำมาใช้ แสดงว่า มั่วอย่างกู่ไม่กลับ และ การจัดฮวงจุ้ยนั้นๆ ก็จะไม่มีผลเลยแม้แต่น้อย เพราะชัยภูมิ และ หลี่ขี่ (กระแส) ขัดกันเอง เพราะ มันคนละระบบวิชา แท้จริงแล้ว ผู้ใช้วิชา 64 ข่วย ล้วนต้องใช้ระบบวิชาชัยภูมิ 8 แบบ ตามสัญลักษณะข่วยเท่านั้น และ ต้องใช้ทั้งระบบโซยทีโป๊ยข่วย (ก่อนฟ้าสร้าง) และ เอ่าทีโป๊ยข่วย (หลังฟ้าสร้าง) มาพิจารณา เช่น ก่อนฟ้า เป็นตัวกำหนดชัยภูมิชั้นนอก (มหภาค) ได้แก่ หลังฟ้า เป็นตัวกำหนดชัยภูมิชั้นใน (จุลภาค) ได้แก่ จากนั้น จึงนำเอาชัยภูมิก่อนฟ้ากับชัยภูมิหลังฟ้ามาเปรียบเทียบกัน เพื่อพิจารณาว่า ก่อนฟ้า และ หลังฟ้า มีความสัมพันธ์กันหรือไม่? อย่างไร? อย่างนี้จึงเรียกว่า การอ่านชัยภูมิของระบบวิชาซำง้วน ไม่ว่าจะเป็น เฮี่ยงคงปวยแช หรือ 64 ข่วย ล้วนต้องอาศัยการพิจารณาชัยภูมิ 8 ทิศทางนี้ทั้งสิ้น ข้าพเจ้าเพียงบอกกล่าวชี้แนะแนวทางหลักการพิจารณาชัยภูมิชั้นสูงของระบบวิชาซำง้วนเท่านั้น มิขอเอ่ยถึงเคล็ดวิชาชัยภูมิซำง้วน ขอเก็บเอาไว้สั่งสอนศิษย์ที่มีความกตัญญูรู้คุณ เคารพครูบาอาจารย์ และ ผ่านการรับไป๋ซืออย่างถูกต้อง เห็นจะเหมาะ เป็นไปไม่ได้ว่า ศิษย์ที่ไป๋ซือกับข้าพเจ้าจะเก่งและแตกฉานทุกคน คงมีแค่เฉพาะบางคนเท่านั้น แต่ความรู้พื้นฐานไปถึงหลักการขั้นกลางย่อมรู้เสมอกัน ส่วนที่ไม่ได้ติดตามกัน หรือ ไม่เจตนาจะบอก เพราะ ข้าพเจ้าเลือกว่าควรจะบอกใคร อันนี้ไม่มีทางทราบแน่ อยู่ที่ว่าแต่ละคนมีความประพฤติเช่นใด เรื่องศิษย์อาจารย์นี่ เรื่องละเอียดอ่อนซะด้วย คงต้องติดตามดูนิสัยใจคอกันไป 3 ปี 5 ปี เลยกระมัง ใครตาม ก็รู้จริง ได้จริงทุกคน นี่สำหรับคนปรารถนาเป็นซินแสนะ ส่วนคนที่สนใจเพียงนำความรู้ไปใช้งานด้วยตนเอง เรียนไม่กี่ครั้งก็เก่งเกินใครแล้ว แต่เรื่องชัยภูมิ มันต้องเห็น ต้องเจอ เกิดข้าพเจ้าโชคร้ายเจอศิษย์เนรคุณคงจะชอกช้ำไปเลย เขาว่ากันว่า "อสรพิษไม่ร้าย เท่าศิษย์เนรคุณ" อันนี้น่ากลัว สมัยนี้เอะอะใครๆ ก็อยากเป็นซินแส อยากไปรับดูฮวงจุ้ย ทั้งๆ ที่ความรู้ยังอ่อนด้อย อ่านชัยภูมิยังไม่ขาด ทำนายไม่ได้ด้วยซ้ำ จะอาศัยเพียงการคำนวณหลี่ขี่ ก็หลงตนว่า เข้าใจ และ แตกฉานวิชาฮวงจุ้ยดี ข้อนี้คงไม่ใช่ มันไม่ได้ง่าย อย่างที่เข้าใจซะแล้วสิ การเปิดเผยเคล็ดวิชาในที่สาธารณะแทนที่จะเป็นประโยชน์แก่บุคคลโดยส่วนรวม กลับกลายเป็นว่า สร้างโอกาสให้แก่นักลอกแบบ นักลอกเนื้อหาวิชาการ นำเอาไปสอน ไปพูดอวดคุยโม้ โพทนาสอนผู้อื่นเป็นคุ้ง เป็นแคว ทั้งๆ ที่หลักการมันผิดตั้งแต่ตน อันนี้เป็นสิ่งอันตราย สำหรับผู้สนใจ
ชัยภูมิ และ เล้ง (พลังมังกร) เป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดสามารถบอกสอนในห้องเรียนได้ เพราะ รายละเอียดสภาวะแวดล้อมทั้ง ถนน สิ่งก่อสร้าง อาคาร ล้วนเป็นองค์ประกอบ ที่ไม่สามารถยกเอามาอธิบายได้ด้วยปากเปล่า จะแตกฉานก็ต่อเมื่อได้ไปพบเห็นของจริง จากชัยภูมิจริง เล้ง (พลังมังกร) ผสมผสานกับชัยภูมิชั้นสูง เป็นความลับของวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูง แม้การอ่านชัยภูมิในสถานที่เดียวกัน ก็ย่อมสามารถอ่านได้แตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของสถานที่ และ สภาวะแวดล้อม ถนน แม่น้ำ สิ่งก่อสร้าง ฉะนั้น หากผู้สนใจศึกษาหลักวิชาฮวงจุ้ย สอบตกวิชาชัยภูมิ และ ไม่สามารถค้นหาพลังมังกร การวางฮวงจุ้ยในครั้งนั้นไม่มีผลเลย แม้จะสามารถพิจารณาหาทิศทางที่ดี แม้จะอาศัยเพียงการคำนวณหลี่ขี่ หรือ ปราณ ก็หาได้มีประโยชน์ไม่ นี่เป็นเหมือนเอกลักษณ์อันไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ของวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูง ลำพังบุคคลจะหาวิธีการที่เข้าถึงโดยไม่มีผู้รู้จริงคอยอบรมชี้แนะ ความหวังในการศึกษาหลักวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูง ก็คงไกลลิบลับ ไปไม่ได้ตามใจฝันซะแล้ว อ่านบทความคุยกับซินแสทั้งหมด >>> คลิ๊กที่นี่ |