เคล็ดวิชาระบบฤกษ์ยามเขียนบทความเกี่ยวกับฮวงจุ้ยมากพอสมควร คราวนี้จึงมานั่งเขียนบทความเรื่องระบบฤกษ์ยาม และ ดวงบุคคล เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ผู้สนใจ เนื่องจาก ระบบฤกษ์ยาม เป็นหัวใจสำคัญในการปรับแต่งแก้ไขฮวงจุ้ย เมื่อใดก็ตามที่เราจะทำการปรับแต่งแก้ไขฮวงจุ้ย เช่น ย้ายเตา ย้ายเตียง แก้ไขประตู ทำการซ่อมแซม ฯลฯ ล้วนต้องอาศัยฤกษ์ยามทั้งสิ้น โดยมีข้อแม้ว่า เมื่อใดที่ต้องการผลดีจากการปรับแต่งแก้ไข เมื่อนั้นต้องอาศัยฤกษ์ยามทั้งหมด หากทำการปรับแต่งแก้ไขแบบเร่งด่วน ไม่จำเป็นต้องอาศัยฤกษ์ยาม เรื่องฤกษ์ยามเป็นสิ่งสำคัญ เป็นเหมือนเครื่องหล่อหลอมฮวงจุ้ย คือ องศา ทิศทาง และ ชัยภูมิ ให้เข้ากับรูปดวงบุคคล โดยปกติแล้ว ซินแสผู้มีความรู้อย่างแท้จริง จะไม่ตามใจใครๆ ทั้งสิ้น หากยังไม่มีฤกษ์ยามที่เหมาะสม ซินแสจะไม่มีการแนะนำให้มีการปรับแต่งแก้ไขสิ่งใดทั้งหมด ทั้งนี้อาจมีผู้แย้งว่า แล้วใครเขาจะมารอฤกษ์ยาม เช่น โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ๆ ที่ต้องกู้ยืมเงินจากธนาคารมา วันหนึ่งอาจเสียดอกเบี้ยเป็นล้านๆ คำพูดเช่นนี้เป็นคำพูดของบุคคลผู้ไม่มีความเข้าใจระบบวิชาอภิปรัชญาจีน ระบบ ฟ้า ดิน คน คือ คำพูดของคนที่ไม่เคยเรียนตามระบบวิชาอย่างแท้จริง หากรอซินแสไม่ได้ หรือ ซินแสเกิดความเกรงใจ จึงให้ฤกษ์ยามแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ต้องถามกลับคืนว่า แล้วเขาจะมาจ้างซินแสกันทำไม!! ฤกษ์ยามแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ใครๆ ก็หาเป็น อีกอย่างการให้ฤกษ์ยามนั้น ล้วนต้องมีการพิจารณา องศา ทิศทางของสถานที่นั้น เกี่ยวเนื่องกับตัวบุคคลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งแรกๆ ที่ควรพิจารณา คือ ฤกษ์ยามดังกล่าวที่นำมาใช้นั้น มีการชง (ปะทะ) หรือไม่? จากนั้นจึงพิจารณาต่อว่า มี อสูรทิศทาง และ ส่วยผัวะทิศทาง บ้างหรือไม่? เช่นนี้เป็นต้น แต่แท้จริงแล้ว เคล็ดวิชาที่สำคัญที่สุดของการพิจารณาฤกษ์ยาม คือ ฤกษ์ยามเปรียบเสมือนรูปดวงบุคคล ที่จะเข้าไปทำการปฏิสนธิ ทิศทาง และ ดวงบุคคล ให้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฉะนั้น ผู้ศึกษาวิชาฤกษ์ยาม ล้วนต้องเข้าใจระบบทำนายดวงบุคคลอย่างแตกฉานเสียก่อน
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เฉพาะในระบบวิชาฮวงจุ้ย 24 ทิศทาง แต่รวมไปถึงระบบวิชาฮวงจุ้ย 64 ทิศทางด้วย ล้วนมีรูปดวง การตั้งดวง และ วัยจร มีการพิจารณาอ่อน-แข็ง เมื่อไม่มีความเข้าใจรูปดวง การใช้งานฮวงจุ้ย และ ฤกษ์ยาม จึงไม่มีประสิทธิภาพ แต่กระนั้นก็ยังมีผู้พยายามบิดเบือน โดยการนำวิชาเฮี่ยงคง 64 ข่วยมาสอน ทั้งระบบฮวงจุ้ย และ ฤกษ์ยาม พร้อมทั้งแอบอ้างว่า เป็นวิชาของสำนักซำง้วน แต่การหาทิศทางที่เหมาะสมกับบุคคล ก็ใช้เพียงรหัสปีเกิดในการคำนวณ ซึ่งไม่ใช่หลักวิชาฮวงจุ้ยที่แท้จริง ถ้าการใช้รหัสบุคคลคำนวณแล้ว สามารถทราบได้ว่าบุคคลนั้นเหมาะสม คือ เข้ากับบ้าน/อาคารสถานที่ดังกล่าวนั้น ก็แสดงว่า เด็กที่เกิดในปีเดียวกัน อยู่ในสถานที่นั้นๆ ที่บอกว่า “เจริญรุ่งเรือง” จะต้องเจริญรุ่งเรืองทั้งหมดใช่หรือไม่? เพราะรหัสบุคคลคำนวณมาจากปีเกิด เพราะบุคคลเข้ากับสถานที่ คือ ในข่วย นอกข่วย ของสำนักเฮี่ยงคง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว กลับตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง แต่กระนั้นเองก็ยังมีผู้พยายามกล่าวอ้างบิดเบือนว่า สามารถใช้ได้จริง โดยปั้นเรื่องแต่งนิยายหลอกลวงผู้สนใจศึกษา ทำให้เกิดความเข้าใจว่า รหัสบุคคลนำมาใช้งานได้จริงกับวิชาข่วย ความจริงแล้ว หลักการดังกล่าว เมื่อนำมาใช้งาน กลับไม่ได้ส่งผลในด้านดีทั้งสิ้น ในมุมตรงกันข้าม อาจส่งผลร้าย อันเนื่องด้วยหลักวิชาที่ผิดพลาด ตลอดเวลาที่ผ่านมา ชมรมหรือสถาบันที่เปิดสอนวิชาฮวงจุ้ยทุกแห่งล้วนไม่ให้ความสนใจเรื่อง “ระบบฤกษ์ยาม” หรือ หากให้ความสนใจ ก็จะให้ความสนใจในอันดับท้ายๆ โดยส่วนใหญ่ เมื่อเวลาที่ข้าพเจ้าได้พบบุคคลที่ต้องการศึกษาโหราศาสตร์จีน ทุกคนมักจะขอเรียนวิชาฮวงจุ้ย รองลงมา คือ ระบบทำนายบุคคล (ดวง) และ น้อยที่สุด คือ ระบบฤกษ์ยาม แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่า สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้องค์ประกอบของฮวงจุ้ย (ดิน) และ บุคคล (รูปดวง) สอดคล้องประสานเป็นเนื้อเดียวกัน ก็คือ “ระบบฤกษ์ยาม” ในเรื่องนี้เอง ข้าพเจ้าได้อธิบายชี้แจงแถลงไขแก่คณะศิษย์ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของระบบวิชา และ ความสัมพันธ์ของระบบ ฟ้า ดิน คน อย่างละเอียด ฉะนั้น เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า ระบบฤกษ์ยาม เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่แพ้หลักวิชาฮวงจุ้ย และ ระบบรูปดวงบุคคล แต่เราจะเข้าใจระบบฤกษ์ยามได้ดีได้ เราก็ต้องเข้าใจระบบรูปดวง และ สิ่งที่เป็นเคล็ดวิชาของมันก็คือ “วัยจร” วัยจร หรือ ถนนชีวิต คือ ลักษณะดี-ร้ายที่เข้ามากระทบรูปดวงของบุคคล ในส่วนนี้ผู้ศึกษาวิชาดวงจีนมักได้ยินกันบ่อยๆ จนติดหู แต่กลับไม่เคยมีใครรู้เลยว่า “วัยจร” ของฤกษ์ก็มี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถส่งเสริม และ หักล้างทำลายฤกษ์ยามที่เราได้คัดเลือกเอาไว้ หากเข้าใจระบบรูปดวงบุคคล การคำนวณหาฤกษ์ยามที่ดี ที่จะส่งเสริมบุคคลนั้น วัยจรที่ใช้ในการวิเคราะห์ดี-ร้าย ตกต่ำ ร่ำรวย เจ็บป่วย ฯลฯ ของบุคคลในลักษณะของรูปฤกษ์ ก็ย่อมมีอิทธิพลเช่นเดียวกันกับวัยจรที่อยู่ในรูปดวงของบุคคลเช่นกัน นี่คือ เคล็ดวิชาที่ออกจากปากซินแส ซึ่งวัยจรอันนี้แหละสามารถส่งผลให้ระบบฤกษ์ยามที่ดีส่งผลต่อเนื่องได้นานถึง 30 ปี, 10 ปี, 5 ปี, 1 ปี, 1 เดือน หรือ ไม่มีผลเลย ขึ้นอยู่กับผู้ที่คำนวณฤกษ์ยามว่า เข้าใจระบบรูปดวงบุคคลมากน้อยเพียงใด?? นี่คือ เคล็ดวิชา หรือ หัวใจสำคัญ ของการหาฤกษ์ยามที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การประสานรูปฤกษ์นั้นๆ ให้สอดคล้องกับทิศทาง และ รูปดวงบุคคล โดยไม่ขัดแย้งกับบุคคลทั้ง ปี เดือน วัน ยาม และ วัยจรของบุคคล ต้องสัมพันธ์กับวัยจรของฤกษ์ด้วย .. และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ ระบบฤกษ์ยามต้องสามารถทำนายได้ว่า ใครจะเป็นผู้รับผล? เหตุการณ์เป็นอย่างไร? และ เกิดขึ้นในช่วงเวลาใด? ดังที่กล่าวมาแล้วในเบื้องต้นว่า ระบบฤกษ์ยามมีพื้นฐานมาจากระบบทำนายบุคคล คือ รูปดวง ในเมื่อระบบรูปดวงสามารถทำนายได้ ระบบรูปฤกษ์ย่อมสามารถทำนายได้ไม่แตกต่างกัน อ่านบทความคุยกับซินแสทั้งหมด >>> คลิ๊กที่นี่ |