องค์ประกอบ ฟ้า ดิน คน แท้จริงเป็นเช่นใดหลักการอภิปรัชญาจีน ระบบ ฟ้า ดิน คน นั้น ย่อมอาศัย 3 สิ่ง เป็นเครื่องประกอบ และ พิจารณา เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง และ เกิดผลพิเศษที่คอยสนับสนุนส่งเสริม การประกอบสัมมาอาชีพ อันได้แก่ ฟ้า ดิน คน ซึ่งทั้ง 3 อย่าง ต้องสอดคล้องลงตัวอย่างขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งมิได้เลย ในชีวิตของมนุษย์เราก็เช่นกัน องค์ประกอบที่สร้างให้เกิดความสำเร็จของบุคคล ย่อมประกอบไปด้วย
ฉะนั้น หากจะกล่าวไปแล้ว ดวงชะตาของบุคคลย่อมเป็นตัวกำหนดสิ่งดี-ร้ายที่จะเกิดขึ้น โดยอาศัยการพิจารณาจากรูปดวงประกอบวัยจร สิ่งนี้จึงมีผลต่อการดำเนินชีวิตมนุษย์มากถึง 30% ส่วนฮวงจุ้ย และ ฤกษ์ยาม เป็นองค์ประกอบภายนอก หรือ ปัจจัยส่งเสริม ซึ่งมีผลต่อชีวิตมนุษย์ 20% [2] ความมุ่งมั่น ขยันหมั่นเพียร ความพยายาม เป็นสิ่งที่เราต้องประพฤติปฏิบัติด้วยตัวของตนเองเท่านั้น ไม่มีบุคคลหนึ่งบุคคลใดที่จะทำให้เรามีความขยันหมั่นเพียร หรือ ความมุ่งมั่น ความพยายามขึ้นมาได้ คนภายนอกหรือบุคคลอื่นใดย่อมสามารถส่งให้เพียงกำลังใจ การช่วยเหลือบางอย่าง และ การประคับประคองเท่านั้น แต่หลักใหญ่นั้นย่อมเกิดจากตนเองทั้งสิ้น [3] ความสามารถ การสร้างโอกาส ความสามารถนี้มนุษย์ทุกคนสามารถฝึกฝนให้ตนเองเป็นผู้มีความรู้ความสามารถได้ และ ให้ตนเองเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในแบบฉบับของตน รู้จักสร้างโอกาสอันเกิดจากความสามารถเฉพาะตน แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องอาศัยองค์ประกอบที่ 2 เสมอ ฉะนั้น ทั้งสององค์ประกอบ อันได้แก่ องค์ประกอบของที่ 2 และ 3 ย่อมส่งผลต่อการเจริญรุ่งเรือง และ ตกต่ำ ของมนุษย์มากถึง 50% ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือ Real life คือ ชีวิตจริงของบุคคล ถ้าหากว่ากำลังมีผู้พยายามบิดเบือนความเป็นจริง เพื่อล่อลวงให้บุคคลหลงเข้าใจผิดว่า ความเป็นจริงในชีวิตของมนุษย์นั้นองค์ประกอบที่ทำให้ประสบความสำเร็จมีส่วนประกอบแค่ ฟ้า คน ดิน เพียงเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้ให้น้ำหนักลงไปที่ ดิน คือ ฮวงจุ้ยมากที่สุด มักให้เหตุผลว่า หากบุคคลอยู่ในทิศทางที่เหมาะสม อยู่ในสถานที่ๆ ดีแล้ว อะไรก็ดีไปหมด แม้อยู่เฉยๆ และ คอยกระตุ้นโชคลาภด้วยฤกษ์ก็สำเร็จไปหมด จึงให้ทุกคนตามหาฮวงจุ้ยดีๆ ให้มาศึกษาจากตน โดยใช้วิชาเฮี่ยงคงปวยแช ระบบวิชาพื้นๆ ซึ่งแม้แต่ผู้สอนก็ยังไม่แตกฉานแต่อ้างว่า ศึกษามาจากปรมาจารย์ทั่วโลก ตามความเป็นจริงแล้ว คือ ลอกมาทั่วโลกนั่นเอง และ สถานที่ที่ลอกมา หรือ บุคคลที่ไปศึกษามา ยังไม่ถึงขั้นที่จะเรียกว่า เป็นปรมาจารย์ ก็คงอยู่ในชั้นอาจารย์ระดับพื้นๆ เช่นกัน ซึ่งคนพวกนี้ชอบยกหางกันตามประสาตัวที่มีอยู่มากตามริมคลองแถวรัฐสภา สำหรับบุคคลผู้ชอบอ้างวิทยาศาสตร์มักกล่าวอ้างว่า "ฮวงจุ้ยสำคัญที่สุด" นั้น ข้อนี้เองเป็นเหมือนความคิดของคนที่มีสมองไม่พัฒนา คือ คนปัญญาอ่อน คนที่ชอบงอมืองอเท้า และ หลอกลวงผู้อื่น อาศัยความโลภ อันเป็นพื้นฐานในจิตใจของมนุษย์เป็นเครื่องหากิน คนจำพวกนี้เป็นพวกที่อยู่ในโลกของความฝัน ที่ฝันคนเดียวยังไม่พอ แต่หลอกให้คนอื่นฝันตามตน และ ยังกล้าอ้างตนเองอธิบายหลักวิชาฮวงจุ้ยวิทยาศาสตร์ คนแบบนี้มีเฉพาะคนโง่จำพวกเดียวกันเท่านั้นที่หลงเชื่อ ไม่รู้จักพิจารณาความเป็นจริงถึง "เหตุ" และ "ผล" หากมีคำถามว่า "ถ้าบุคคลไม่ต้องอาศัยฮวงจุ้ย ไม่ต้องอาศัยฤกษ์ยาม จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้หรือไม่?" คำตอบของข้าพเจ้าในฐานครูบาอาจารย์ และ ผู้ศึกษาวิชาเหล่านี้มาอย่างแตกฉาน อาศัยหลักเหตุและผล ซึ่งอธิบายตามความจริง และ ตรรกวิทยาว่า "แม้บุคคลไม่ต้องอาศัย ฮวงจุ้ย และ ฤกษ์ยาม ก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกัน" จะเห็นได้ว่า มีหลายคนในโลกที่ประสบความสำเร็จ กลุ่มบุคคลเหล่านั้นไม่เคยใช้วิชาฮวงจุ้ย ไม่เคยใช้ฤกษ์ยาม ไม่เคยใช้ฤกษ์กระตุ้นโชคลาภแบบบ้าๆ บอๆ แต่บุคคลเหล่านั้นมีพื้นฐานรูปดวงที่มั่นคง เดินวัยจรในลักษณะที่ดี เมื่อฟ้าและดินปฏิสนธิกัน จึงส่งผลให้เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนั้น ประกอบกับ ความมุ่งมั่น ขยันหมั่นเพียร ความพยายาม ความสามารถ การสร้างโอกาสให้แก่ตน ทำให้บุคคลจำนวนไม่น้อยประสบความสำเร็จในชีวิตได้ เพราะแท้จริงแล้ว องค์ประกอบหลายส่วนที่ทำให้บุคคลประสบความสำเร็จนั้นไม่จำเป็นต้องมีฮวงจุ้ยและฤกษ์ยามเลย เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้ หลายท่านคงสงสัย และ อยากจะถามว่า "ฮวงจุ้ย และ ฤกษ์ยาม มีความสำคัญแค่ไหน? มีผลอัศจรรย์จริงหรือไม่?" ข้าพเจ้าก็ขอตอบว่า "มีผลอัศจรรย์จริง (แต่ทั้งนี้ต้องได้ครบองค์ประกอบของวิชา) และ สำคัญจริง" สำหรับบุคคลผู้ต้องการปัจจัยสนับสนุน หรือ ปัจจัยภายนอกที่ช่วยส่งเสริม หรือ เครื่องช่วยประคับประคองไม่ให้ตกต่ำลงเมื่อถึงคราวที่เดินวัยจรไม่ดี หรือ ช่วยส่งเสริมในช่วงที่เดินวัยจรดีให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป แต่ทั้งนี้ต้องประกอบไปด้วย ความมุ่งมั่น ขยันหมั่นเพียร ความพยายาม ความสามารถ การสร้างโอกาส ประกอบสัมมาอาชีพก็สำเร็จได้ง่ายกว่าคนอื่น ถ้าทำการค้าขายดีจะได้ผลดีกว่าคนอื่นประสบผลกำไรมากกว่าคนอื่น ฉะนั้น ในหลักการของวิชาฮวงจุ้ยตามวิถีของเต๋าจึงสอนให้บุคคลคล้อยตามธรรมชาติ ธรรมชาติในที่นี้ คือ ธรรมชาติของการดำเนินชีวิตมนุษย์ คือ รู้จักทำมาหากิน มีความขยันหมั่นเพียร ไม่เบียดเบียน รู้จักเก็บออม ก่อนที่จะประกอบกิจใดก็ให้รู้จักเวลาและสถานที่ รู้จักคิด ใคร่ครวญไตร่ตรอง แม้ถึงคราวตกต่ำก็ไม่เสียหาย หากรู้จักที่จะดำเนิน รู้จักหลีกเลี่ยง รู้จักหลบเลี่ยงเพียงเท่านี้ เราจะเป็นผู้สำเร็จตามความมุ่งมาดปรารถนา ควรทราบว่า “คนคิดไม่สู้ฟ้าคิด แต่ฟ้าคิด ไม่สู้คนทำ” หากรู้จักดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับ ฟ้า ดิน คน และ ตัวตนแห่งความเป็นจริง ย่อมประสบผลอัศจรรย์กว่าคนทั้งหลาย อ่านบทความคุยกับซินแสทั้งหมด >>> คลิ๊กที่นี่ |