หลักสูตรชั้นสูงสำหรับผู้ต้องการศึกษาเคล็ดลับของวิชา
“เคล็ดวิชาดวงจีนระบบเจี่ยโหงวเฮ้ง” หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ เมื่อเอ่ยถึงหลักวิชา “ดวงจีน” หลายๆ คนที่มีความสนใจในหลักวิชาโหราศาสตร์จีน ต้องเคยได้ยิน ไม่มากก็น้อย และ ต้องเคยศึกษาวิชาดวงจีนมาเช่นกัน ทุกคนมักเข้าใจว่า หลักวิชาดวงจีน คือ วิชาโป๊ยยี่สี่เถียว คำว่า “โป๊ยยี่สี่เถียว” ไม่ใช่คำใช้เรียกวิชาดวงจีน แต่เป็นการเรียกลักษณะองค์ประกอบของวิชาดวงจีน โป๊ยยี่ทั้งหมด 8 อักษร 4 เสา อันได้แก่ เสาหลักปี เสาหลักเดือน เสาหลักวัน เสาหลักยาม มีราศีบน และ ราศีล่าง รวมกันขึ้นมาเป็นวิชาดวงจีน หากจะถามว่า วิชาดวงจีนระบบเจี่ยโหงวเฮ้ง กับ วิชาดวงจีนโป๊ยยี่สี่เถียวเหมือนกันหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า เหมือนกันเฉพาะในรูปแบบและลักษณะขององค์ประกอบของ 8 อักษร 4 เสา อันได้แก่ เสาหลักปี เสาหลักเดือน เสาหลักวัน เสาหลักยาม แต่วิชาดวงจีนระบบเจี่ยโหงวเฮ้งจะเพิ่มเสาขึ้นมาอีก 3 เสา คือ
และหลักการของวิชาดวงจีนระบบเจี่ยโหงวเฮ้งนั้น มีความแตกต่างในการวิเคราะห์ และ การทำนายจากวิชาดวงจีนโป๊ยยี่สี่เถียวโดยสิ้นเชิง เนื่องจาก อาศัยอารมณ์ของธาตุ และ ธรรมชาติของธาตุ เข้ามาวิเคราะห์เหตุการณ์ดีและร้าย ที่เข้ามากระทบรูปดวงชะตา รวมไปถึงการวิเคราะห์ลักษณะหน้าตา นิสัย ใจคอ รูปร่าง โดยสื่อความหมายแบบชี้เฉพาะเจาะจง ไม่ได้ทายเป็นภาพรวมแบบวิชาดวงจีนโป๊ยยี่สี่เถียว ซึ่งมีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผู้ศึกษาไม่สามารถสรุป และ ชี้เหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งในขั้นสูงนั้น วิชาดวงจีนระบบเจี่ยโหงวเฮ้ง ยังมีการพิจารณารูปดวงประกอบกับ 12 วัง ทำให้สามารถทำนายรูปดวงชะตาได้อย่างเจาะลึก หลายๆ คนที่เคยศึกษาวิชาดวงจีนโป๊ยยี่สี่เถียวนั้น โดยส่วนใหญ่จะใช้หลักการตามคัมภีร์ “จื้อเพ้ง” ซึ่งหลักการมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก จะสังเกตได้จากผู้ศึกษาวิชาดวงจีนระบบจื้อเพ้งโดยส่วนใหญ่ จะทำนายเป็นภาพรวม ทำนายวกไปวนมา แต่ก็ไม่สามารถชี้ชัดๆ ลงไปในเหตุการณ์นั้นๆ ได้ อีกทั้งมีการนำเอาปฏิกริยา เฮ้ง ผัวะ ไห่ และ ซิ้งสัวะจำนวนมากเข้ามาผสม ทำให้ผู้ศึกษาไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมด หากจะแบ่งผู้ศึกษาวิชาดวงจีนออกเป็น 2 แบบ ย่อมสามารถจำแนกได้ดังนี้ คือ [1] ศึกษาดวงจีนมาหลายที่ หลายสำนัก ทั้งยังศึกษาด้วยตนเอง แต่เมื่อนำมาทำนายแล้ว ถูกบ้าง ผิดบ้าง จึงมีความรู้สึกว่า สิ่งที่ตนรู้ยังไม่ใช่ ยังต้องการศึกษาเพิ่มเติม และเปิดใจยอมรับ [2] ศึกษาดวงจีนมาหลายที่ หลายสำนัก ทั้งยังศึกษาด้วยตนเอง แต่เมื่อนำมาทำนายแล้ว ถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่หลอกตนเองว่า สิ่งที่ตนรู้นั้น..ใช่แล้ว แต่ก็ยังพยายามที่จะหาหลักการอื่นๆ เข้ามาเปรียบเทียบหลักการของตน หากใช่ ก็เชื่อถือ หากขัดแย้ง ก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ ทั้งๆ ที่ตนเองไม่สามารถทำนายเหตุการณ์ได้ถูกต้องเลย การศึกษาวิชาดวงชะตานั้น คือ การ “ทำนายเหตุ ไปหาผล” เหตุ คือ นำรูปดวงชะตาของบุคคล ประกอบกับผลกระทบ คือ วัยจร และ ปีจร เดือนจร วันจร เวลาจร มาอ่าน และ ตีความว่า จะเกิดปฏิกริยาดี-ร้าย ตามหลักการของวิชาทำนายดวงชะตาประเภทนั้นๆ จึงเรียกว่า ผล แต่อาจารย์สอนดวงจีนเกือบทุกๆ สำนัก มัก “ทำนายผล ไปหาเหตุ” คือ นำเอาดวงชะตาของบุคคลที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป คนดัง ดารา นักการเมือง เศรษฐี มาทำนาย โดยพยายามเอาหลักการของวิชาทำนายดวงชะตาที่ตนศึกษา และ วิธีการสารพัด เข้าไปทำนายเรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนหลัง ให้เหมือนกับว่า หลักวิชาที่กำลังใช้นั้นมีความแม่นยำอย่างอัศจรรย์ ทำให้ผู้ศึกษาวิชาดวงจีนไม่สามารถทำนายดวงชะตาของบุคคลได้จริง เพราะรูปดวงตัวอย่างที่นำมาทำนายนั้น เหมือนถูกจัด บีบ บังคับ ให้เข้ากับหลักการที่ศึกษา เหตุการณ์ใด ประวัติ สิ่งใดๆ ก็ตาม ของเจ้าของรูปดวงตัวอย่าง ที่ไม่เข้ากับหลักการ ก็ละเว้นไป หรือไม่ก็พยายามหาเหตุผลนอกเหนือเข้ามาทำนาย ทำให้ผู้ศึกษาไม่สามารถนำเอาหลักการไปใช้ทำนายดวงชะตาได้จริง ผู้สอนบางคนก็อาศัยสอนหลักการไปเรื่อยๆ อธิบายหลักการ และ วิธีการใช้งานไปเรื่อยๆ แต่ไม่ยกตัวอย่างการทำนายรูปดวงจริง การศึกษาวิชาทำนายดวงชะตาให้ได้ผลจริงนั้น อาจารย์ผู้สอนต้องนำเอารูปดวงชะตาของบุคคลที่อยู่ในที่นั้นๆ ยกขึ้นมาอ่าน ทำนายสด แล้วให้ผู้เป็นเจ้าของดวงชะตาเป็นผู้ตอบโต้กับอาจารย์ผู้สอนไปด้วย จะทำให้ผู้ร่วมศึกษาในห้องเรียนวิชาทำนายดวงชะตานั้นๆ เกิดความรู้ ความเข้าใจ ได้ประสบการณ์ และ ทำความเข้าใจไปด้วยว่า เพราะเหตุใด จึงเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นกับเจ้าชะตา เพราะสิ่งใดเป็นเครื่องชี้ เพราะสิ่งใดเป็นเหตุ สิ่งที่ควรทราบอีกอย่างนึงก็คือ วิชาการทำนายชะตาระบบดวงจีน เป็นสิ่งศึกษาได้ยาก เป็นสิ่งเข้าใจได้ยาก มีความสลับซับซ้อน พลิก สลับ กลับไปกลับมาตลอดเวลา ผู้ศึกษาต้องอาศัยความขยันหมั่นเพียร ไม่ท้อถอย และ ต้องจดจำหลักการ และ พื้นฐานซึ่งเป็นกฏข้อบังคับในหลักวิชาที่ศึกษาให้เกิดความแม่นยำ ประกอบกับ อาจารย์ผู้สอน ต้องเป็นผู้เข้าใจในหลักวิชา และ รู้จริงในหลักวิชา ต้องอาศัยการยกตัวอย่าง รูปดวงชะตาเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพันรูปดวง และ ดวงชะตานั้น ต้องเป็นดวงชะตาจริง ซึ่งเจ้าของดวงชะตาจริงต้องอยู่ในการทำนายนั้นๆ ด้วย ไม่ใช้ดวงสมมุติ หรือ บุคคลตัวอย่างมาศึกษา จึงจะทำให้ผู้ศึกษาเข้าใจ และ บรรลุ สามารถทำนายดวงชะตาได้อย่างแม่นยำ หลักสูตรวิชาดวงจีนเจี่ยโหงวเฮ้งจึงเหมาะสำหรับที่ผู้สนใจจะศึกษาวิชาดวงจีนอย่างจริงจัง เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้ทำนายได้จริง ต่อตนเอง และ ผู้อื่น SAGES ACADEMY เปิดหลักสูตร “เคล็ดวิชาดวงจีนระบบเจี่ยโหงวเฮ้ง” (สำหรับผู้ต้องการทำนายได้อย่างแม่นยำ และ ผู้ต้องการนำไปประกอบอาชีพหมอดู หรือ เป็นไกด์ในการดำเนินชีวิต) หัวข้อหลักๆ ในการศึกษา
หมายเหตุ: เนื้อหาที่แสดงข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีอีกหลายหัวข้อที่ไม่ได้ลงไว้ ระยะเวลาในการศึกษา (ในตาราง): 24 ครั้ง เรียนทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. ระยะเวลาในการศึกษา (นอกตาราง): 48 ครั้ง อาจารย์ผู้สอนจะนัดในห้องเรียน (นักศึกษาจะต้องชำระค่าเบรค) อาจารย์ผู้สอน: อ.ตั้งเต็กค้วง
สิ่งที่จะต้องนำมาในการเรียนครั้งแรก: - ส้มสีทอง จำนวน 5 ใบ - ใบชาอย่างดี 1 ห่อ
หมายเหตุ
ผู้สนใจสามารถลงชื่อสมัคร และ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: 081-639-8518 (เฉพาะเวลา 09.00-20.00 น.)
|